วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อารยธรรมเมโสโปเตเมีย



             กำเนิดในลุ่มแม่น้ำสองสาย คือ ไทกริสและยูเฟรติส เป็นแหล่งอารยธรรมแรกของโลก เมื่อประมาณ 3500 ปี ก่อนคริตศักราช 
           มีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลมผืนใหญ่ทอดโค้งจากฝั่งทะเลด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจรดอ่าวเปอร์เซียจึงมีสมญานามว่า “ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์”ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทำให้ชนเผ่าต่างๆ เข้ามาตั้งถิ่นฐานมากมาย(ปัจจุบันนี้ได้แก่ประเทศอิรักและซีเลีย)

ชนกลุ่มต่างๆที่สร้างอารยธรรมในดินแดนเมโสโปเตเมีย

1. สุเมเรียน

[Ziggurette.jpg]
ซิกกูแรต (วิหารบูชาเทพเจ้า) 
- ตั้งอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของที่ราบเมโสโปเตเมียที่เรียกว่า        “ซูเมอร์”
- ปกครองแบบนครรัฐ (City States) แต่ละนครรัฐเป็นอิสระไม่ขึ้นแก่กัน มีกษัตริย์เป็นผู้นำ นครรัฐที่สำคัญเช่น เมืองอูร์ เมืองเออรุคและเมืองอิริดู เป็นต้น
- นับถือเทพเจ้าหลายองค์ มีเทพเจ้าประจำนครรัฐ เน้นโลกนี้เป็น
สำคัญ ไม่เชื่อเรื่องโลกหน้า
- สร้างซิกกูแรต (วิหารบูชาเทพเจ้า)
- วรรณกรรมกิลกาเมช กล่าวถึงการพจญภัยของสีรบุรุษชาวสุเมเรียน
- วรรณกรรมเอนลิล กล่าวถึงการสร้างโลกและน้ำท่วมโลก
- รู้จักใช้ระบบชลประทาน เช่น อ่างเก็บน้ำ เขื่อนกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ
- ดำรงชีพด้วยการเพาะปลูก พืชที่สำคัญคือ ข้าวสาลี
- รู้จักใช้ยานพาหนะเช่น รถม้า
- รู้จักใช้โลหะผสม(สำริด) ทำเครื่องมือ เครื่องประดับ
- รู้จักทอผ้า
- รู้จักการบวก ลบ คูณ ทำปฏิทินจันทรคติ(ข้างขึ้น ข้างแรม) การนับวันเวลา



อักษรคูนิฟอร์ม(รูปลิ่ม)
- ประดิษฐ์อักษรคูนิฟอร์ม(รูปลิ่ม) เขียนลงบนแผ่นดินเหนียวด้วยปากกาที่ทำจากต้นอ้อแล้วนำไปตากแห้ง

2. อมอไรต์ หรือ บาบิโลน
 
                                                  

- เป็นเผ่าเซมิติก อพยพมาจากทะเลทรายอาระเบียน มายึดครองนครรัฐของสุเมเรียน
- ขยายอาณาจักรไปกว้างขวางและสถาปณาจักรวรรดิบาบิโลเนีย
- กษัตริย์ที่สำคัญคือพระเจ้าฮัมมูราบี
- มีการประมวลกฎหมายลายลักษณ์อักษรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก คือกฎหมายฮัมมูราบี มีบทลงโทษแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

3. ฮิตไทต์และคัสไซต์
ฮิตไทต์
- เป็นเผ่าอินโดยุโรเปียน
- เดิมอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย ขยายตัวมาตามลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส โจมตีทางเหนือของซีเรีย ปล้นกรุงบาบิโลนและปกครองดินแดนเมโสโปเตเมียต่อมา
- มีความสามารถในการรบมาก
- เป็นชนเผ่าแรกที่รู้จักใช้เหล็กทำเป็นอาวุธ รู้จักใช้รถเทียมม้าทำศึก
- ตรงกับสมัยที่อียิปต์เรืองอำนาจ
- กษัตริย์ฮัตตูซิลิที่ 3แห่งฮิตไทต์ และฟาโรห์รามเสสที่ 2แห่งอียิปต์ได้ทำสนธิสัญญาไม่รุกรานกัน และหากบุคคลที่ 3มาโจมตี ต้องช่วยเหลือกัน
คัสไซต์
-เข้ายึดครองกรุงบาบิโลน

4. แอสซีเรียน

                                                   พระราชวังซาร์กอน                                               
- เป็นเผ่าเซมิติกมาจากทะเลทรายอาหรับ
- ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองนิเนเวห์
- สามารถในการรบและการค้า
- ขยายอำนาจถึงฟินิเชีย ปาเลสไตน์ อียิปต์และเปอร์เซีย
- กองทัพแข็งแกร่ง มีระเบียบวินัยสูง
- ใช้เหล็กทำอาวุธ

- มีการก่อสร้างที่ใหญ่โตมหึมา มำทำเป็นโดม เช่นพระราชวังซาร์กอน


- มีการปั้นแบบนูนตัวและลอยตัว ให้อารมณ์สมจริง
- มีการแกะสลักภาพ เคลื่อนไหวแบบธรรมชาติ

- กษัตริย์องค์สุดท้ายคือ “พระเจ้าอัชชูบานิปาล” เป็นสมัยที่เจริญสูงสุด มีการสร้างหอสมุดรวบรวมข้อมูลมหาศาลและยังรวบรวมแผ่นดินเหนียวที่มีอักษรคูนิฟอร์ม22,000แผ่น

5.แคลเดียน

สวนลอยแห่งบาบิโลน
- เป็นเผ่าเซเมติก โค่นล้มแอสซีเรียนได้
- สถาปณาจักรวรรดิแคลเดียนหรือบาบิโลเนียใหม่

- สร้างสวนลอยแห่งบาบิโลน ในสมัยพระเจ้าเนบูชัดเนสซาร์
- ทำแผนที่ดวงดาว
- คำนวณการเกิดสุริยุปราคา จันทรุปราคา
- แบ่งสัปดาห์เป็น 7 วัน

6. เปอร์เซีย

ชนเผ่าอินโดยุโรเปียน ปกครองบริเวณที่ราบสูงอิหร่านมีราชวงศ์ต่างๆปกครอง ดังนี้

1) ราชวงศ์อะคีเมนิด


                                                         

- ก่อตั้งโดยพระเจ้าไซรัสมหาราช ขยายอำนาจไปจนถึงแม่น้ำสินธุ 
อียิปต์
- พระเจ้าดาริอุส ขยายจักรวรรดิกว้างขวางไปอีก สร้างเมืองหลวงที่สวยงามชื่อ “เปอร์ชีโปลิช” สร้างถนนเชื่อมดินแดนในจักรวรรดิ ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของเปอร์เซีย
- มีศาสนาโซโรแอสเตอร์ เป็นศาสนาประจำชาติ มีเทพเข้าอาหุรามาสดาเป็นเทพฝ่ายดีและอาหริมันป็นเทพฝ่ายชั่ว
- ถูกกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งกรีกยึดครอง ทำให้เสื่อมลง
2) ราชวงศ์เซลิวชิด
- ก่อตั้งโดยทหารของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งกรีก แต่ไม่มีอำนาจ
3) จักรวรรดิของชาวปาร์เถียน
- ย้ายเมืองหลวงไปที่แบกแดด
4) ราชวงศ์ซัลซานิด
- ปกครองเป็นเวลา 400ปีเศษ มีศาสนาอิสลามมาแทนที่ศาสนาซีโรแอสเตอร์
5) ราชวงศ์อับบาสิด หรือ อาหรับมุสลิม
- มุสลิมรุ่งเรืองทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
- กษัตริย์ที่สำคัญคือ ฮารูณ อัล ราชิด ส่งเสริมด้านการค้าจนรุ่งเรือง
6) สมัยมองโกลปกครอง
- ฮุลากุข่านหลานเจงกิสข่านมายึดกรุงแบกแดด ปกครองเป็นเวลา 200ปีครึ่ง
7) ราชวงศ์ซาฟาวี
- ขับไล่มองโกลไปได้ ย้ายเมืองหลวงไปที่อิสฟาฮาน
- กษัตริย์ที่สำคัญคือ ชาห์ อับบาสมหาราช ปฏิรูปการปกครอง
- นับถืออิสลามนิกายชีอะห์
8) ราชวงศ์คะจาร์
- เชื้อสายเติร์ก ไม่ค่อยมีอำนาจ ปกครองแบบเผด็จการ
- รัสเซียและอังกฤษขยายอำนาจ
9) ราชวงศ์ปาเลวี
- กษัตริย์คนแรกคือ เรซา ชาห์ ปาเลวี เปลี่ยนชื่อจากเปอร์ซียเป็นอิหร่าน
- สมัยพระเจ้ามุฮำมัด เรซาห์ ชาห์ นำกฎหมายฝรั่งเศสมาใช้ มีการปฏิรูปที่ดิน แต่เศรษฐกิจก็ถดถ้อย
10) สมัยสาธารณรัฐอิสลาม


                                                 
- อยาโตลลา โคไมนี โค่นราชวงศ์ปาเลวี เปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ
- ต่อต้านสหรัฐอเมริกา
- เมื่ออยาโตลลา โคไมนีถึงแก่กรรม ผู้นำได้ดำเนินนโยบายสายกลาง ปฏิรูปเศรษฐกิจ ให้เสรีภาพ ให้สิทธิสตรี


ชนบางกลุ่มที่สร้างอารยธรรมในเอเชียไมเนอร์

1.) ฮิตไตท์
-เป็นชาติแรกที่รู้จักใช้เหล็ก
2.)ลิเดียน
-เป็นชาติแรกที่มีผลิตเหรียญกษาปณ์ขึ้นใช้
3.)ฟินิเชียน
-สร้างเรือใบขนาดใหญ่  รวมทั้งเมืองท่าขนาดใหญ่ด้วย
-นำอักษรของอียิปต์และลิ่่มมาดัดแปลงเป็นอักษรอัลฟาเบต(อักษรที่ใช้เสียงสระและพยัญชนะประสมกัน)ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของภาษากรีก-ละติน
4.)ฮิบรู

                                            

- เป็นบรรพบุรุษของชาวยิว
- เรื่องราวของชาวฮิบนูปรากฏอยู่มนภาคแรกของคัมภีร์ไบเบิล
- กษัตริย์เดวิด เป็นปฐมกษัตริย์
- กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ กษัตริย์โซโลมอน
- นับถือลัทธิยูดาย
หลังจากกรีก-โรมัน เรืองอำนาจในเอเชียตะวันตก แต่อารญธรรมเมโสโปเตเมียก็ไม่สูญสลายก็มีวัฒนธรรมกรีก-โรมัน เป็นรากฐานวัฒนธรรมโลกต่อมา